หลังจากที่เราใช้เวลาหลายวันพักร้อนที่เกาะช้างแล้ว เกาะช้างก็เป็นที่น่ายินดีและจบลงโดยสมบูรณ์สำหรับเรา อย่างไรก็การท่องเที่ยวเกาะช้างเป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับเรา แทบจะไม่สามารถตอบสนองจิตวิญญาณของการผจญภัยได้ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะเดินทางมายัง กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง และเรียกได้ว่าเป็นแห่งความวุ่นวายก็ว่าได้ แต่เต็มไปด้วยความสนุกนั่นเอง
นี่คือบทสรุปของการเดินทางของเรา:
i. | จองตั๋วเรือเฟอร์รี่ และรถตู้ ออนไลน์ กับ BusOnlineTicket.co.th |
ii. | จุดรับที่โรงแรม |
iii. | ขึ้นเรือเฟอร์รี่ |
iv. | จุดมาถึง ในท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย (ตราด) |
v. | ขึ้นรถตู้ |
vi. | พักรับประทานอาหาร และเข้าห้องน้ำ |
vii. | จุดมาถึง กรุงเทพฯ |
1. จองตั๋วเรือเฟอร์รี่ และรถตู้ ออนไลน์ กับ BusOnlineTicket.co.th
เราจองตั๋ว เรือเฟอร์รี่ + รถตู้จาก เกาะช้าง ไป กรุงเทพฯ โดย ทราเวลมาร์ท ผ่าน BusOnlineTicket.co.th เราไปที่ออฟฟิศ ทราเวลมาร์ท เพื่อแลกกับตั๋วของเราและจองบริการรับส่งจากโรงแรมล่วงหน้าก่อนการเดินทางของเรา
2. จุดรับที่โรงแรม
ในวันเดินทางเรารอรถตู้มารับ และ ส่งเราไปยังโรงแรมด้วย ทราเวลมาร์ท รถตู้ถึงตรงตามเวลา ฝนตกมากดังนั้นพนักงานจึงถือร่มให้กับเรา เพื่อป้องกันไม่ให้เราเปียกน้ำ ในขณะที่เราเดินจากโรงแรมไปยังรถตู้พวกเขามีความรอบคอบและใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างดี
3. ขึ้นเรือเฟอร์รี่
เนื่องจากฝนตกหนักเราต้องใช้เวลาเดินทางนานประมาณ 30 นาที จึงจะถึงท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ เกาะช้าง รถตู้ส่งเราลงที่ที่พักที่อยู่ใกล้กับท่าเรือข้ามฟาก หลังจากรอประมาณ 10 นาทีเราก็เดินไปที่ท่าเทียบเรือ และขึ้นเรือข้ามฟาก บนเรือมีเสื้อชูชีพเพียงพอสำหรับผู้โดยสารไว้ในกรณีฉุกเฉิน
คำแนะนำ: คุณควรเตรียมเสื้อกันฝน หรือร่มไว้ สำหรับในช่วงฤดูฝนที่เกาะช้าง เสื้อกันฝนและร่มช่วยป้องกันไม่ให้คุณเปียกน้ำได้ตลอดเวลา
โชคดีที่เราได้เตรียมเสื้อกันฝนไว้สำหรับตัวเอง ดังนั้นเราจึงสามารถเดินผ่านสายฝนและนั่งลงบนที่นั่งในเรือข้ามฟาก ซึ่งเปียกโชกโดยที่เราไม่ต้องกังวลกับการเปียกกับการเดินทางในครั้งนี้
4. จุดมาถึง ที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย (ตราด)
หลังจากเดินทางบนทะเลเป็นเวลากว่า 45 นาที เราก็มาถึง ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย ในจังหวัดตราด เราลงเรือเฟอร์รี่หลังจากที่ยานพาหนะ และรถมอเตอร์ไซค์ขับออกจากเรือข้ามฟาก
ที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยต์ รถรับส่งก็พร้อมที่จะรับผู้โดยสารไปยังท่าเรือข้ามฟาก การเดินทางจาก ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย มายังท่าเรือข้ามฟากพาเราใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที
5. โอนถ่ายไปยัง รถตู้
หลังจากที่เราไปถึงท่าเรือข้ามฟากจาก ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย เราตรวจสอบตั๋วโดยสารรถตู้ของเราที่เคาน์เตอร์ พนักงานที่อยู่ที่นั่นให้บัตรสติกเกอร์แก่เราหลังจากเช็คอิน กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาดำเนินการประมาณ 10 นาทีก่อนออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ
6. พักรับประทานอาหารกลางวันและห้องน้ำในช่วงหยุดพัก
หลังจากเดินทางมา 1 ชั่วโมง รถตู้ได้หยุดรถที่ อาร์อาร์ จังหวัดจันทบุรี เพื่อใช้เวลาพักและเข้าห้องน้ำประมาณ 20 นาที
หลังจากเดินทางไปอีก 2 ชั่วโมงรถมินิแวนได้หยุดพักที่อำเภอบ้านบึงจังหวัดชลบุรีเพื่อพักรับประทานอาหารกลางวัน 45 นาที
7. จุดมาถึง ที่กรุงเทพฯ
ในที่สุดเราก็มาถึงสำนักงาน ทราเวลมาร์ท ในกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาดนัดกลางคืนถนนข้าวสาร การเดินทางของเราจากเกาะช้าง ไป กรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะเราชอบทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดเส้นทางมา กรุงเทพฯ จาก เกาะช้าง
เราไปที่สถานที่ต่างๆใน กรุงเทพฯ เช่น ตลาดกลางคืน ถนนข้าวสาร เซ็นทรัลเวิร์ล บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ ศาลพระพรหมเอราวัณ ตลาดประตูน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ตลาดกลางคืนถนนข้าวสาร
ตลาดกลางคืนถนนข้าวสาร เป็นแหล่งช้อปปิ้ง และสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่ยอดเยี่ยม
เซ็นทรัลเวิร์ล และ บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์
เซ็นทรัลเวิลด์ และบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ตรงข้ามกันและกัน
ตลาดกลางคืน ประตูน้ำ
เราชอบอาหาร และเครื่องดื่มที่ตลาดนัดกลางคืน แถวประตูน้ำ
ศาลพระพรหม (เอราวัณ)
ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “พระพรหมสีหน้า” ดึงดูดผู้เข้าชมมากกว่าวัดต่างๆของเมืองในกรุงเทพฯ
การเดินทางจาก เกาะช้าง ไป กรุงเทพฯ เป็นการเดินทางที่ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีกับ ทารเวลมาร์ท พนักงานได้ดูแลผู้โดยสารอย่างดี ตั้งแต่เริ่มเดินทางจนกระทั่งสิ้นสุดจุดหมายปลายทาง เมื่อเรามาถึงกรุงเทพฯ โดยรวมแล้วการใช้บริการเรือข้ามฟาก และรถบัสจาก เกาะช้าง ไปกรุงเทพ ฯ ด้วย ทราเวลมาร์ท เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับเรา จองตั๋วเรือข้ามฟาก + รถบัสออนไลน์ได้ที่ BusOnlineTicket.co.th ล่วงหน้า จองได้แล้ววันนี้!