อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ที่มีสำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ได้การประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในชื่อ “นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาประกอบด้วยโบราณสถานมากกว่า 425 แห่ง ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม วันนี้ BusOnlineTicket จะพาทุกคนไปตามรอยแม่การะเกด จากละครบุพเพสันนิวาส ไปเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 1 วัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลยออเจ้า

ประวัติความเป็นมาของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

หากใครได้ดูละคร บุพเพสันนิวาส และ พรหมลิขิต คงเคยได้ยินชื่อ เมืองอโยธยา กันมาบ้างแล้ว โดยเมืองอโยธยานั้นมีชื่อเต็ม ๆ ว่า อโยธยาศรีรามเทพนคร หรืออีกชื่อหนึ่งคือ เมืองพระราม ซึ่งในความเป็นจริงนั้นมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ว่า เดิมทีที่ตั้งของกรุงศรีอยุธยาได้มีบ้านเมืองชื่อว่า เมืองอโยธยา ตั้งอยู่มาก่อนแล้ว โดยมีหลักฐานทางโบราณสถานที่เป็นวัดสำคัญ อย่าง วัดมเหยงค์ และวัดอโยธยา รวมทั้งจากพงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ อักษรนิติ ที่ได้บันทึกไว้ว่า พระเจ้าพนัญเชิง ซึ่งเป็นพระประธานของวัดพนัญเชิง ถูกสร้างขึ้นก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี

กรุงศรีอยุธยามีทำเลที่ตั้งที่มีลักษณะเป็นเกาะเมือง มีแม่น้ำที่สำคัญ 3 สายไหลผ่าน คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ก่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ตามเป็นศูนย์กลางการค้าขายและการเดินทางทางน้ำ และที่สำคัญก็คือมีปราการธรรมชาติที่เปรียบเสมือนกำแพง ทำให้ข้าศึกบุกลุกล้ำเข้ามาได้ยาก จนทำให้กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีใหญ่ จนได้รับการกล่าวขานกันว่าเป็น อู่ข้าวอู่น้ำ แห่งสยามประเทศที่อุดมสมบูรณ์ ดังเช่นภาพบรรยากาศในละครที่เราได้รับชมกันนั่นเอง

กรุงศรีอยุธยาเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว บ้านเมืองเต็มไปด้วยบรรดาพ่อค้า นักเดินเรือ ชาวต่างชาติ ทั้งเอเชียและยุโรปมากมาย จึงทำให้กรุงศรีอยุธยากลายเป็นเมืองแห่งการค้า เศรษฐกิจ และมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับนานาประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรีอยุธยายังโดดเด่นในเรื่องของการปกครอง กฎหมาย ระบบสังคม วัฒนธรรม ประเพณี ศิลปะและความงามหลากหลายแขนง ซึ่ง อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ประวัติความเป็นมาที่มีความสำคัญเช่นนี้ จึงได้ถูกอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นใหม่ ๆ ได้เยี่ยมชมและสัมผัสกับเสน่ห์ของบรรยากาศกรุงเก่าอยุธยา จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้

คำขวัญประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

“ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา เลอคุณค่ามรดกโลก”

ที่ตั้งอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่ตั้งอยู่ภายในเกาะเมืองอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ไปทางทิศเหนือประมาณ 75 กิโลเมตร

โบราณสถานสำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

แผนที่โบราณสถานสำคัญของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ข้อมูลตามที่บอกไปแล้วว่าเป็นอุทยานประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทย ที่มีโบราณสถานมากถึง 425 แห่ง ซึ่งเยอะมาก ๆ BusOnlineTicket เราจึงขอแนะให้ทุกคนได้รู้จักกับนำโบราณสถานสำคัญ ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงเรียงนามคุ้นหูกันมาบ้างแล้วตามหนังละครหรือแม้แต่ในหนังสือเรียนก็ตาม บอกเลยว่าแม้จะมีเวลาเที่ยวแค่วันเดียวก็เก็บได้ครบทุกที่แน่นอน

วัดมหาธาตุ

วัดมหาธาตุ

วัดมหาธาตุเป็นวัดศูนย์กลางเมืองหรือหลักเมืองในสมัยอยุธยา เป็นที่สถิตของสมเด็จพระสังฆราช และเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ จุดเด่นของวัดมหาธาตุที่ใครมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมต้องห้ามพลาด นั่นก็คือ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งอยู่ในรากของต้นโพธิ์ข้างวิหาร โดยส่วนขององค์พระได้หายไปแล้ว ซึ่งคาดว่าเศียรพระพุทธรูปหินทรายนี้ได้หล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นโพธิ์ ตั้งแต่สมัยเสียกรุงครั้งที่ 2 จนรากไม้ขึ้นปกคลุม เกิดเป็นความมหัศจรรย์ที่งดงามแปลกตา และทำให้วัดมหาธาตุเป็นที่เลื่องลือและโด่งดังไปทั่วโลก

  • ที่ตั้ง : ถนนนเรศวร ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  • เวลาที่เปิดให้เข้าชม : 08.30 – 16.30 น.

วัดราชบูรณะ

วัดราชบูรณะ

เป็นหนึ่งในวัดที่ใหญ่และมีความเก่าแก่มากที่สุดในอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ณ ที่ถวายพระเพลิงพระศพพระเชษฐาทั้ง 2 พระองค์ คือ เจ้าอ้ายพระยา และเจ้ายี่พระยา ซึ่งทรงทำยุทธหัตถีแย่งชิงราชสมบัติจนสิ้นพระชนม์พร้อมกัน และในปี พ.ศ. 2499 ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายลักลอบขุดกรุในองค์ปรางค์ประธาน และได้ของมีค่าไปเป็นจำนวนมาก กรมศิลปากรจึงทำการตรวจสอบปรางค์ประธานอีกครั้ง จนพบเครื่องพุทธบูชา ทองคำ และของมีค่าอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ที่แสดงถึงความมั่งคั่งของกรุงศรีอยุธยานั่นเอง

  • ที่ตั้ง : ถนนชีกุน ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  • เวลาที่เปิดให้เข้าชม : 08.30 – 16.30 น.

วัดพระศรีสรรเพชญ์

วัดพระศรีสรรเพชญ์

วัดสำคัญสูงสุดในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวง ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ภายในวิหารหลวงประดิษฐานองค์พระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นพระพุธรูปยืนสูง 16 เมตร หุ้มด้วยทองคำหนักประมาณ 170 กิโลกรัม ซึ่งทองคำเหล่านี้สูญหายไปหมดสิ้นในสมัยเสียกรุง เมื่อปีพ.ศ. 2310 วัดพระศรีสรรเพชญ์สร้างอยู่ในเขตพระราชฐาน โดยไม่มีพระสงฆ์จำวัด ซึ่งถือเป็นต้นแบบของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วในปัจจุบัน

  • ที่ตั้ง : ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  • เวลาที่เปิดให้เข้าชม : 08.30 – 16.30 น.

* ข้อมูลจาก กรมศิลปากร และ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาไม่ได้มีโบราณสถานที่เปิดให้เข้าชมเพียงแค่นี้ แต่ยังมีโบราณสถานแห่งอื่น ๆ ให้ได้เยี่ยมชมอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น วัดพระราม วัดไชยวัฒนาราม และวัดใหญ่ชัยมงคล เป็นต้น

BusOnlineTicket จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนเที่ยววัดไทย อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยไปด้วยกัน ใครมีเวลาก็อย่าลืมไปเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยากันเยอะ ๆ นะ หากใครกลัวร้อนก็อย่าลืมทาครีมกันแดด พกหมวก หรือร่มไปกันด้วย และสำหรับใครที่ขี้เกียจเดิน ก็สามารถเช่าจักรยานปั่นเที่ยวชมเมือง และอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้ ราคาเช่าจักรยานมีตั้งแต่ 50 บาทจนถึง 100 บาทต่อวัน

ค่าเข้าชม อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ค่าเข้าชมสำหรับชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท หรือใครที่ต้องการซื้อบัตรรวม ก็จะมีราคาสำหรับชาวไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ 220 บาท

โบราณสถานที่เสียค่าเข้าชม ได้แก่

  1. วัดพระศรีสรรเพชญ์
  2. วัดมหาธาตุ
  3. วัดราชบูรณะ
  4. วัดพระราม
  5. วัดไชยวัฒนาราม
  6. วัดมเหยงคณ์

ข้อมูลการเดินทาง

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว

มีทั้งหมด 3 เส้นทาง ได้แก่

  1. จุดเริ่มต้นที่ถนนพหลโยธิน ผ่านประตูน้ำพระอินทร์ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 309 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  2. จุดเริ่มต้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ หรือถนนงามวงศ์วาน เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 306 (ถนนติวานนท์) ข้ามสะพานนนทุรี (สะพานนวลฉวี) ไปยังจังหวัดปทุมธานี ต่อด้วยเส้นทางปทุมธานี-สามโคก-เสนา แล้วแยกขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3267 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  3. จุดเริ่มต้นบนเส้นทางกรุงเทพฯ – นนทบุรี – ปทุมธานี ถนนทางหลวงหมายเลข 306 เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 347 ที่ทางแยกสะพานปทุมธานี แล้วไปแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3309 เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

การเดินทางโดยรถโดยสาร

เส้นทางเดินรถโดยสารจาก กรุงเทพฯ ไป อยุธยา มีบริษัทเดินรถที่เปิดให้บริการ ได้แก่

วัชรินทร์ทัวร์
ให้บริการเดินรถรอบแรกเวลา 05.30 น. และรอบสุดท้ายเวลา 20.30 น. มีจุดขึ้นรถหลายจุด ส่วนจุดจอดพระนครศรีอยุธยามี 2 จุด คือ ประตูน้ำพระอินทร์ราชา และจุดจอดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา ซึ่งทั้ง 2 จุดนี้ห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 45 นาที
มาม่า แทรเวล แอนด์ ทัวร์
รถออกจากจุดขึ้นรถของบริษัท (ถนนข้าวสาร) เวลา 12.30 น. จุดจอดรถอยู่ที่ ตลาดเจ้าพรหม ห่างจากอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 1.5 กิโลเมตร (ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที)
บขส 999 (บริษัท ขนส่ง จำกัด)
ให้บริการเดินรถรอบแรกเวลา 05.30 น. ขึ้นรถที่สถานีขนส่ง หมอชิต 2 เดินรถรอบสุดท้ายเวลา 21.00 น.

โปรดตรวจสอบราคาตั๋วโดยสารและข้อมูลเพิ่มเติมที่ BusOnlineTicket

การเดินทางโดยรถไฟ

การเดินทางด้วยรถไฟจาก กรุงเทพฯ ไป อยุธยา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เปิดให้บริการอยู่หลายเที่ยวต่อวัน รอบแรก ให้บริการโดยรถไฟเลขขบวน 21 รถออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 06.10 น. รอบสุดท้าย ให้บริการโดยรถไฟเลขขบวน 51 รถออกเวลา 22.30 น.

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ โบราณสถานสำคัญของไทย ที่ดังไกลไปถึงระดับโลก จนถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม กับภาพจำของคนยุคใหม่ในความงดงามของบ้านเมือง วิถีชีวิต และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติของอยุธยา ที่ถูกทำให้เห็นและสัมผัสได้ถึงลิ่นอายความเป็นกรุงเก่าที่เคยรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ ผ่านจอทีวีและภาพยนตร์มาแล้วมากมาย ทำให้ใครหลาย ๆ คนอดไม่ได้ที่จะมาสัมผัสและมาชมให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้ง และแน่นอนว่าการเดินทางจากกรุงเทพฯ นั้นก็ง่ายมาก ๆ ใช้เวลาแค่ 1 – 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว สำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปอยุธยาด้วยรถโดยสารหรือรถไฟ ก็สามารถจองตั๋วออนไลน์ได้ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ BusOnlineTicket